วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ศาลสั่งแมเนเจอร์ ล้มละลาย

ศาลสั่งแมเนเจอร์ ล้มละลาย หนี้ท่วม4พันล.ใช้บริษัทใหม่เปลี่ยนหัวผู้จัดการ เป็นASTV-ผู้จัดการ

ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป ล้มละลาย หนี้ท่วมกว่า 4,700ล้านบาท ทำให้นสพ.ผู้จัดการ ออกจำหน่ายในวันที่ 19 พ.ย.เปลี่ยนหัวจาก ผู้จัดการ เป็น ผู้จัดการ 2551 ชั่วคราว จนกว่าจะจดหัวใหม่ว่า ASTV-ผู้จัดการ ในนามของบริษัท เอเอสทีวี รายงานข่าวจากศาลล้มละลายกลางเปิดเผยเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อบ่ายวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาให้บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)ล้มละลายเนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลเห็นชอบได้ โดยศาลไม่เห็นชอบไม่ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูตามที่ผู้บริหารแผนยื่นคำร้อง
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ศาลนัดพิจารณาเรื่องคำร้องขอขยายระยะเวลาดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ในวันที่ 29 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากผู้บริหารแผนได้รับรายงานข้อเท็จจริงของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อให้โอกาสผู้บริหารแผนได้ทำคำชี้แจงเกี่ยวกับรายงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงเลื่อนการพิจารณามาเป็นบ่ายวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551

แหล่งข่าวจากบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่า ผลจากคำสั่งศาลดังกล่าว ทำให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่ออกจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน ต้องเปลี่ยนหัวจาก ผู้จัดการ เป็น ผู้จัดการ 2551 เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะจดหัวหนังสือพิมพ์ใหม่ว่า ASTV-ผู้จัดการ ในนามของบริษัท เอเอสทีวีหรือไทยเดย์ ดอทคอมซึ่งเป็นเจ้าของโทรทัศน์ เอเอสทีวีในปัจจุบัน

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับพนักงานบริษัทซึ่งมีอยุ่ประมาณ 500 คน ฝ่ายบริหารได้เรียกประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเมื่อเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายนว่า บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ปจะทำหนังสือเลิกจ้างอย่างเป้นทางการ และให้พนักงานเขียนใบสมัครเป็นพนักงานบริษัทใหม่ในเครือของนายสนิธฺ ลิ้มทองกุลโดยพนักงานจะทำงานในตำแหน่งเดิมและเงินเดิมเท่าเดิมทุกอย่างรวมถึงกองบรรณาธิการนด้วย

อย่างไรก็ตามประเด็นที่ยังไม่สามารถชี้แจงให้ชัดเจนได้คือ เงินชดเชยจากการเลิกจ้างของบริษัทเดิมจะได้รับหรือไม่ เพราะการเข้าทำงานกับบริษัทใหม่ต้องนับเวลาใหม่ซึ่งจะทำให้พนักงานเสียสิทธิ์ แหล่งข่าวกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่งมีคำสั่ง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2542 เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กร๊ป ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 และแต่งตั้งน.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ เป็นผู้บริหารแผน โดย มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ 359 ราย เป็นจำนวนหนี้ที่ขอรับชำระหนี้กว่า 4,726 ล้านบาท แต่ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้จนศาลสั่งให้ล้มละลายในที่สุด

1 ความคิดเห็น:

  1. ประกาศพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แมเนเจอร์ มีเดีย เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน

    ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๔๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คดีหมายเลขแดงที่ ลฟ. ๕/๒๕๔๑

    ประกาศระบุว่า ด้วย ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๒บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ ๓ ผู้ร้องขอ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้ เด็ดขาด ตามมาตรา ๙๐/๗๐ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ แล้ว

    ลูกหนี้มีอาชีพประกอบกิจการออกหนังสือพิมพ์ มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ ๙๘/๓-๑๐ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานครเพราะฉะนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเป็นต้นไป เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจ ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ดังต่อไปนี้

    (๑) จัดการและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป

    (๒) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สิน ซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น

    (๓) ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้

    อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งเจ้าหนี้ในหนี้อื่นที่อาจขอรับชำระหนี้ได้จากมูลหนี้ที่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ศาลได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ จะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเรื่องนี้ จะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา ๒ เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้ แต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจขยายกำหนดเวลาให้อีกไม่เกิน ๒ เดือน และลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ซึ่งสามารถตรวจรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ของกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษาที่www.ratchakitcha.soc.go.th

    บริษัท แมเนเจอร์ มีเดียกรู๊ป ตั้งอยู่เลขที่ 98/3-10 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์และสิ่งตีพิมพ์ โดยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2536 ด้วยทุนจดทะเบียน 225,000,000 บาท

    เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนมาแล้ว 11 ครั้ง ครั้งล่าสุดเพิ่มเป็น 424,238,880 บาท

    ผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำนวน 98,023,029 หุ้น ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล ถือหุ้นจำนวน 4,500,000 หุ้น

    จากการตรวจสอบ งบกำไรขาดทุน 3 ปี หลังสุด พบว่า ปี 2550 ขาดทุน 12.2 ล้านบาท ปี 2549 กำไร 18.9 ล้านบาท ปี 2548 ขาดทุน 86.8 ล้านบาท


    Resource:http://www.matichon.co.th/prachachat/news_title.php?id=10270

    ตอบลบ