วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วิธีการทำงานและสร้างอนาคต



ความสำเร็จอันจะพึงบังเกิดแก่เราเองเป็นส่วนตัวก็ดี ประโยชน์อันพึงจะได้แก่ประเทศชาติ หรือ องค์การที่เรามีหน้าที่ความรับผิดชอบอยู่เป็นส่วนรวมก็ดี ต้องเป็น "ผลของงาน"

ความมั่งคั่งสมบูรณ์ที่บรรพบุรุษ หรือ บิดามารดาทำไว้ให้ กำเนิดอันสูงที่โชคชะตาบันดาลให้เราเกิดมา วิชาการความรู้ที่โอกาสอำนวยให้เราได้ศึกษา สิ่งเหล่านี้จะไม่มีประโยชน์อันใด ถ้าเราไม่ทำงาน เพราะถ้าเราไม่ทำงาน ความมั่งคั่งสมบูรณ์นั้น ก็จะหมดไปโดยเร็ว กำเนิดอันสูงส่งจะกลายเครื่องถ่วง เครื่องทำความลำบาก แทนที่จะเป็นเกียรติเป็นประโยชน์ และ วิชาความรู้ที่เราไม่ได้ใช้ ก็มีแต่จะหมดสิ้นไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน

ประเทศชาติต้องการคนที่ทำงาน เพราะคนที่ทำงานเท่านั้น ที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ พวกไม่ทำงานย่อมเป็นกาฝาก กินและใช้ทรัพยากรของชาติให้หมดเปลืองไป โดยไม่สร้างอะไรขึ้นมาตอบแทน พวกนี้มีแต่จะนำความเสื่อมโทรมเสียหายมาให้ องค์การ สำนักงาน กระทรวงทบวงกรม หรือ แหล่งธุรกิจทั้งหลาย ย่อมต้องการคนที่ทำงาน ไม่มีใครต้องการผู้มีฐานันดรสูง ประกาศนียบัตรล้ำเลิศ ดีกรีปริญญานับไม่ถ้วน แต่ไม่ทำอะไร

ความรู้เป็นของประเสริฐ แต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือ "หลักราชการ" ว่าวิชานั้นเปรียบเหมือนเครื่องแต่งตัว ซึ่งใครมี"ทุน"แล้วก็อาจจะหาแต่งได้เท่ากัน แต่ ถึงแม้จะนุ่งหางหงส์ ผัดหน้าใส่ชฏาทอง ถ้าแม้ว่ารำไม่งาม เขาก็ไม่เลือกเอาเป็นตัว "อิเหนา"

ความเจริญก้าวหน้าในส่วนตัวของมนุษย์ก็ดี ในส่วนรวมของประเทศชาติหรือของโลกก็ดี ได้มาจากคนที่ทำงาน งานอย่างเดียวเป็นเครื่องวินิจฉัย"คุณค่าของคน"

การวินิจฉัยคุณค่าของคนด้วยวิธีอื่น นอกจากด้วยงานนั้น จะเป็นการวินิจฉัยที่ "ผิด"

คัดลอกบางส่วนมาจาก หนังสือ วิธีทำงานและสร้างอนาคต ของ หลวงวิจิตรวาทการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น