วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความเป็นธรรม

ความเป็นธรรม

ความเป็นธรรม ก็คือ ความถูกต้องและเมื่อความเป็นธรรมเกิดขึ้นเมื่อใดความสงบย่อมเกิดขึ้นที่นั้น เพราะความเป็นธรรมมีอยู่ในใจของบุคคลทุกคน และทุกคนย่อมรู้ว่าอะไรเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม ดังนั้น เมื่อความเป็นธรรมเกิดขึ้นความสงบย่อมจะต้องเกิดขึ้น เพราะแม้ผู้ที่ปฏิบัติการที่ไม่เป็นธรรมก็ย่อมจะรู้ว่าอะไรคือความเป็นธรรม เขาย่อมสงบและต้องยอมรับในความเป็นธรรมนั้น ความเป็นธรรมจึงเป็นความสงบและสร้างความสุขขึ้นโดยทั่วหน้ากัน

ความถูกต้องและความเป็นธรรมนั้น เป็นทางเดินของจิต ที่ตรงข้ามกับความไม่เป็นธรรม การที่จะสร้างจิตให้นึกคิดแต่ความเป็นธรรมนั้น จะต้องมีการฝึกเหมือนกัน ข้อสำคัญจึงอยู่ที่จิต

พระโพธิญาณเถร (พระอาจารย์ชา สุภัทโท) ได้เทศนาไว้ว่า

"ความจริง จิตนี้ไม่เป็นอะไร มันเป็นประภัสสรของมันอยู่อย่างนั้น มันสงบอยู่แล้ว
ที่จิตไม่สงบทุกวันนี้ เพราะจิตมันหลงอารมณ์

ตัวจิตแท้ๆ นั้นไม่มีอะไร เป็นธรรมชาติอยู่เฉยๆ เท่านั้น ที่สงบ ไม่สงบ
ก็เป็นเพราะอารมณ์มาหลอกลวง จิตที่ไม่ได้ฝึกก็ไม่มีความฉลาด มันก็โง่
อารมณ์ก็มาหลอกลวงไปให้เป็นสุข เป็นทุกข์ ดีใจ เสียใจ

จิตของคนตามธรรมชาตินั้นก็ไม่มีความดีใจเสียใจ ที่มีความดีใจเสียใจนั้นไม่ใช่จิต
แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอกลวง จิตก็หลงไปตามอารมณ์โดยไม่รู้ตัว
แล้วก็เป็นสุขเป็นทุกข์ไปตามอารมณ์ เพราะยังไม่ได้ฝึก ยังไม่ฉลาด
แล้วเราก็นึกว่าจิตเราเป็นทุกข์ นึกว่าจิตเราสบาย ความจริงมันหลงอารมณ์"

เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมเห็นได้ว่า อารมณ์ย่อมเป็นตัวแปรที่สำคัญ กล่าวคือ อารมณ์จะเป็นตัวแปรที่ทำให้เห็นผิดเป็นถูก หรือเห็นถูกเป็นผิดได้ วิธีฝึกจิตให้เห็นแต่ความเป็นธรรมนี้ ก็คือต้องฝึกจิตของตนให้รู้เท่าทันอารมณ์ หรือความผันแปรของโลกที่เกิดขึ้นมากระทบตัวจิต โดยจะต้องให้จิตรู้ว่า ขณะนี้มีอารมณ์อะไรเกิดขึ้น เพียงแต่ให้รู้ว่า มีอารมณ์อะไรแต่ไม่ต้องทำตามอารมณ์เท่านั้น เมื่อรู้แล้วก็นิ่งเฉยเสีย อารมณ์ทุกข์ก็นิ่งเฉย อารมณ์สุขก็นิ่งเฉย จิตรู้อยู่แล้ว เช่นนี้ ความถูกต้องและความสงบเป็นธรรมก็เกิดขึ้น

Resource:http://www.korat-sum.ago.go.th/page15.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น